ค้นหาบล็อกนี้

มารู้จักอาหารฟาสต์ฟูดกันเถอะ

วันอังคารที่ 3 ตุลาคม พ.ศ. 2560

เคล็ด (ไม่) ลับ กินฟาสต์ฟู้ด อย่างไรให้เสียสุขภาพน้อยที่สุด






           สถานการณ์ที่เร่งรีบในแต่ละวันทำให้อาหารฟาสต์ฟู้ดเข้ามามีบทบาทในชีวิตประจำวันของเรามากขึ้น และเป็นที่นิยมมากสำหรับทุกเพศทุกวัย โดยเฉพาะเด็กๆ เพราะเป็นอาหารจานด่วนที่หาง่าย กินง่าย ไม่แพง และมีรสชาติอร่อย ทำให้ประหยัดทั้งเงิน ทั้งเวลา แต่สิ่งที่จะได้รับจากความอร่อย คือ ผลเสียต่อสุขภาพ ไม่ว่าจะเป็นโรคอ้วน โรคความดันโลหิตสูง โรคหลอดเลือดหัวใจ โรคเบาหวาน โรคไตวาย โรคมะเร็งลำไส้ และอีกหลายโรคตามมา แต่ถ้าหลีกเลี่ยงไม่ได้จริงๆ หรือใจมันเรียกร้องอยากจะกินให้ได้ เราก็มีเคล็ดลับง่ายๆ ที่จะทำให้การ กินฟาสต์ฟู้ด มีคุณค่าทางโภชนาการและเสียสุขภาพน้อยที่สุด
    1.ทำพิซซ่ากินเองดีต่อสุขภาพ


https://www.google.co.th/search?q=พิซซ่าต่อสุขภาพ&tbm

           เพราะพิซซ่ามีส่วนประกอบของอะคริลิไมท์ ซึ่งเป็นสารก่อมะเร็งและทำลายประสาท เป็นสารเคมีที่เกิดจากการทอดหรือการอบอาหารที่นานเกินไป ยิ่งทำให้ขนมปังเกรียมเท่าไร สารอะคริลิไมท์ก็มากขึ้นเท่านั้น และในพิซซ่าก็ยังมีสารกันบูดต่างๆ อีกมากมาย ที่ส่งผลให้ร่างกายเสื่อมโทรมลงง่ายๆ การทำพิซซ่ากินเองเป็นอีกทางเลือกหนึ่งของสายเฮลตี้ที่อยากกินอาหารฟาสต์ฟู้ดแต่กลัวเสียสุขภาพ เพราะเราได้เลือกวัตถุดิบในการทำเอง แนะนำให้ใช้แป้งโฮลเกรน ตัดวัตถุดิบที่มีไขมันสูงออกไป อาจใส่ผักที่ชอบ เห็ด สับปะรด และมะเขือเทศ ซึ่งดีกว่าการกินแป้งเพียงอย่างเดียวแน่นอน ถ้าต้องซื้อกิน ก็ควรเลือกเมนูที่มีชีสน้อยๆ หรือ พิซซ่าอิตาเลี่ยนดั้งเดิมที่เป็นแป้งบางกรอบ และให้กินสลัดผักร่วมด้วย เพื่อให้ได้รับวิตามินและใยอาหารเพิ่ม ที่สำคัญคือไม่ควรคิดว่าการเพิ่มเงินไม่กี่บาทก็ได้ไซต์ใหญ่กว่าเดิม เพราะการคิดแบบนี้จะทำให้เรากินเยอะขึ้น สิ่งที่เพิ่มขึ้นจะไม่ใช่แค่ขนาดของพิซซ่าเท่านั้น แต่ยังเป็นน้ำหนักตัวของเราด้วย


2.เบอร์เกอร์แคลอรี่ต่ำ



www.google.co.th/search?dcr=0&biw=1600&bih=720&tbm=isch&sa=1&q=เบอร์เกอร์แคลอรี่ต่ำ&oq

         เชื่อกันว่าเนื้อที่ใช้ในการทำเบอร์เกอร์มักเป็นเศษเนื้อเหลือๆ ที่ไม่มีคุณภาพ ส่วนผักก็มักจะเต็มไปด้วยยาฆ่าแมลง แถมยังมีการใช้สารเคมีมากำจัดเนื้อที่กำลังจะเน่าเสีย และใส่สารปรุงรส ที่ส่งผลให้เกิดอาการแพ้และทำให้อ้วนขึ้นอีกด้วย แต่ไม่ใช่ว่าการกินเบอร์เกอร์จะไม่ดีต่อสุขภาพของเราไปเสียทีเดียว เพราะเราสามารถทำกินเองได้ง่ายๆ เป็นเบอร์เกอร์แคลอรี่ต่ำ แบบเสียสุขภาพน้อยที่สุด โดยใช้วัตถุดิบที่ไขมันต่ำ เช่น ขนมปังโฮลวีท มัสตาร์ดไขมันต่ำ ในส่วนของเนื้อ ควรเป็นเนื้อย่าง และควรเป็นเนื้อไร้มัน อาจใช้วัตถุดิบที่เป็นสมุนไพรด้วยยิ่งดี เพราะนอกจากสมุนไพรจะมีประโยชน์ทำให้สุขภาพดีแล้ว ยังเป็นการเพิ่มคุณค่าทางโภชนาการของอาหารอีกด้วย


3.จำกัดปริมาณการดื่มน้ำอัดลม



ที่มาwww.google.co.th/search?dcr=0&biw=1600&bih=769&tbm=isch&sa=1&q=จำกัดปริมาณการดื่มน้ำอัดลม&oq=

        ไม่แปลกที่คนชอบกินน้ำอัดลมจะประสบปัญหากับความอ้วนและฟันผุ เพราะในน้ำอัดลมมีทั้งน้ำตาลและกรดกำมะถัน เมื่อกินเข้าไปมากๆ จะทำให้น้ำหนักลดลงยาก ส่วนโซดาที่มีอยู่ในน้ำอัดลมก็เป็นสาเหตุทำให้เกิดโรคกระดูกพรุนอีกด้วย ถึงแม้น้ำอัดลมจะเป็นต้นเหตุที่ทำให้เกิดโรคมายมายแต่เราก็ยังอยากกินกันอยู่ดี บางคนถึงกับขาดไม่ได้ต้องมีติดตู้เย็นอยู่ตลอด เรียกได้ว่าทุกมื้ออาหารจะต้องมีน้ำอัดลมรวมอยู่ด้วย ในเมื่อเรายังต้องกินก็ควรกินแบบพอดีๆ หลายคนห้ามใจตัวเองไม่ได้ ยิ่งได้ยินคำว่ารีฟิลน้ำอัดลม ยิ่งทำให้อยากกินเข้าไปอีก เพราะคิดว่ามันคุ้มค่า แต่นั่นยิ่งทำให้เราได้รับน้ำตาลมากจนเกินไป ดังนั้น “ห้ามรีฟิลเด็ดขาด” ควรจำกัดการกินน้ำอัดลมให้เป็นนิสัย เพื่อเป็นการจำกัดน้ำตาลไม่ให้มีมากเกินปริมาณที่ควรจะได้รับในแต่ละวัน จำไว้ว่าอย่าเอาความคุ้มมาใช้ในการกินน้ำอัดลม เพราะสิ่งที่เราจะได้รับหลังจากที่กินเข้าไป มันไม่คุ้มเอาเสียเลย

4.ไก่ทอดธัญพืช


ที่มาwww.google.co.th/search?dcr=0&biw=1600&bih=720&tbm=isch&sa=1&q=ไก่ทอดธัญพืช&oq

           ไก่ทอดกรอบ ส่งกลิ่นหอม แถมรสชาติก็อร่อย ใครจะรู้ว่าความกรอบและอร่อยของมันคือตัวการสำคัญที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพของเรา เพราะในไก่ทอดมีแป้งขนมปังผสมอยู่ แถมยังมีสารปรุงรส รวมไปถึงสารอะลูมิเนียม ซึ่งเป็นสารพิษที่เป็นอันตรายต่อสมองอีกด้วย แต่จะให้เลิกกันไปเลยก็คงไม่ใช่ เพราะไก่ทอดนับว่าเป็นอาหารสุดโปรดของใครหลายคน โดยเฉพาะเด็กๆ การกินของทอดยังไงก็ต้องอันตรายอยู่แล้ว แต่เพื่อเป็นการไม่เสียสุขภาพไปมากกว่านี้ เราควรเพิ่มสารอาหารให้กับตัวเองโดยเปลี่ยนจากการชุบเกล็ดขนมปังมาเป็นชุบธัญพืชแทน เลือกเนื้อไก่ส่วนที่มีไขมันน้อยๆ อย่างส่วนอก เติมนมลงไปผสมเพื่อเป็นการเพิ่มโปรตีน สิ่งสำคัญคือ เพิ่มความพิถีพิถันในการทอด เพื่อไม่ให้ไก่เกรียมจนเกินไป และห้ามใช้น้ำมันทอดซ้ำกันหลายๆ ครั้งเด็ดขาด

5.เฟรนช์ฟรายส์อบ


www.google.co.th/search?q=เฟรนช์ฟรายส์อบ&tbm

            เฟรนช์ฟรายส์ทำมาจากมันฝรั่งซึ่งมันเป็นผักก็จริง แต่คุณค่าทางอาหารต่ำ ยิ่งนำเอามาทอดด้วยแล้ว ยิ่งเป็นอันตรายมากขึ้น เพราะเมื่อถูกทอดในน้ำมันที่ใช้ทอดซ้ำกันหลายๆ ครั้ง ก็แทบจะไม่เหลือสารอาหารที่เป็นประโยชน์อะไรเลย แถมยังเสี่ยงเป็นโรคมะเร็งในกระเพาะอาหาร และโรคไตอีกด้วย แต่ถึงรู้อย่างนี้แล้ว เราก็ยังอดใจไม่ไหวที่จะต้องรีบไปซื้อทุกครั้งเมื่อมันลดราคา การควบคุมการทอดและการใช้น้ำมันนั้น ถือว่าเป็นอีกทางเลือกหนึ่งของคนที่ชอบกินของทอดจนขาดไม่ได้ แต่จะดีกว่าไหม ถ้าเรานำเฟรนช์ฟรายส์ไปอบแทนการทอด เพราะนอกจากจะได้รสชาติความอร่อยที่ไม่แพ้การทอดแล้ว ยังไม่ต้องมากังวลเรื่องอันตรายจากน้ำมันอีกด้วย

          อาหารฟาสต์ฟู้ดมีปริมาณโซเดียมที่สูงมาก จึงมักมีรสชาติเค็ม แม้โซเดียมจะเป็นแร่ธาตุที่จำเป็นต่อร่างกาย ช่วยเสริมสร้างร่างกายให้แข็งแรง และควบคุมความสมดุลของร่างกาย แต่หากได้รับในปริมาณที่มากเกินไป ก็อาจเสี่ยงต่อการเป็นโรคไต โรคความดันโลหิตสูง และโรคหลอดเลือดหัวใจได้ อาหารประเภทนี้มีสารอาหารที่จำเป็นต่อร่างกายไม่มากนัก บางชนิดก็ให้พลังงานที่มากเกินความจำเป็น ยิ่งกินมากเท่าไรก็ยิ่งทำให้ร่างกายขาดความสมดุลมากเท่านั้น อาหารทุกชนิดมักจะให้ทั้งคุณและโทษในเวลาเดียวกัน ขึ้นอยู่กับพฤติกรรมการกินของเรา ดังนั้นเราควรกินอย่างพอดี และควรเผาผลาญพลังงาน ด้วยการออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ เป็นการเพิ่มความสมดุลให้ร่างกาย และเพื่อสุขภาพที่สมบูรณ์ของเรา


ที่มาของข้อมูล http://www.goodlifeupdate.com/69067/variety/fastfood/2/


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น